บริเวณแถบวัดเอเก็นจิ
พบกับภูมิทัศน์อันเป็นรากเหง้าแห่งญี่ปุ่น

วัดเอเก็นจิซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองฮิงาชิโอมิ จังหวัดชิงะ คือวัดที่ทำการใหญ่ของสำนักเอเก็นจิสายรินไซ
ผู้คนจำนวนมากต่างให้ความเคารพนับถือกันอย่างมากมาแต่โบราณ นอกจากใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
ที่นี่ยังมีความงดงามของธรรมชาติหลากสีสัน เช่น ความเขียวขจีของต้นไม้ ฯลฯ ที่ได้ชมผ่านตลอด
ทั้งสี่ฤดูกาลซึ่งแต่งแต้มสีสันให้แก่วัดเอเก็นจิแห่งนี้ มี “แม่น้ำเอจิ” แหล่งต้นน้ำของทะเลสาบบิวะ
ซึ่งไหลอยู่ข้างวัดเอเก็นจิ มีชามันโดโกโระที่บอกเล่าความเป็นชาแบบอนุรักษ์นิยม
ซึ่งใช้วิธีปลูกชาเดียวกับในสมัยมุโรมาจิ
สิ่งที่สัมผัสได้ทุกแห่งหนของที่นี่คือ รากเหง้าซึ่งมีมาแต่เดิมของญี่ปุ่น
ในโอกาสนี้เราได้เตรียมกิจกรรมให้ได้ลองสัมผัสประสบการณ์ตลอดจนโปรแกรมต่างๆ
ซึ่งมีเฉพาะบริเวณแถบวัดเอเก็นจิ จังหวัดชิงะแห่งนี้ไว้สำหรับทุกคนแล้ว
ขอเชิญมาร่วมมัสผัสรากเหง้าแห่งญี่ปุ่น
ได้ที่บริเวณแถบวัดเอเก็นจิ จังหวัดชิงะ

永源寺 地図

จังหวัดชิงะ วัดเอเก็นจิ

วัดเอเก็นจิ คือ วัดที่ทำการใหญ่ของสำนักเอเก็นจิ 1 ใน 15 สำนัก อันประกอบด้วยสายรินไซและสายโอบากุ มีสำนักสาขาจำนวน 127 แห่งทั่วประเทศ
เป็นสำนักฝึกที่เก่าแก่ของการนั่งสมาธิแบบเซนและการฝึกฝนตนเอง ตลอดจนอธิษฐานขอพรความสงบสุขแก่โลก ท่านจากุชิสึเง็งโก พระนิกายเซน
ผู้ก่อตั้งวัดและสร้างวิหารอาคารต่างๆ ต่อมาวัดเอเก็นจิก็มีพระอริยสงฆ์จำนวนมาก กล่าวกันว่าภายใต้การอุปถัมภ์ของตระกูลซาซากิผู้ดูแลแคว้นโอมิ
ในยุคที่รุ่งเรืองนั้นมีพระสงฆ์มาฝึกปฏิบัติกันที่นี่กันกว่า 2,000 รูปเลยทีเดียว ที่นี่มีธรรมชาติที่หลากหลายอาทิเช่น ใบไม้เปลี่ยนสีที่ห้อมล้อมทางเดิน
และประตู ซึ่งงดงามยิ่งนักในแถบโอมิ คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติสีสันสดใสทั่วทั้งบริเวณวัดแห่งนี้
ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนในฐานะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของ “ทะเลสาบบิวะและทิวทัศน์ของสายน้ำบริเวณโดยรอบ” ของมรดกแห่งประเทศญี่ปุ่น

หลงใหลในเสน่ห์แห่งรากเหง้าของญี่ปุ่นจากหัวใจ

การมาเยือนที่วัดเอเก็นจิและบริเวณโดยรอบแล้วหวนระลึกถึงเมื่อครั้งอดีต จะทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
ยังคงมีความเป็นญี่ปุ่นในส่วนที่สัมผัสได้เฉพาะที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ทุกครั้งที่สัมผัสรากเหง้าแห่งญี่ปุ่นซึ่งถูกเก็บรักษากันมาเป็นอย่างดีนี้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า
แล้วจิตใจก็จะรู้สึกอิ่มเอิบขึ้นมาทุกครั้งเช่นนี้ เป็นเพราะเหตุใดกัน

รู้จักเสน่ห์ต่างๆ ของญี่ปุ่น
ผ่านการสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลาย

ทั้งการนั่งสมาธิแบบเซน อาหารเจ ชามันโดโกโระ พิธีชงชาเซนฉะ...ทุกครั้งที่ได้ลองสัมผัสประสบการณ์กับสิ่งเหล่านี้
คุณจะค่อยๆ เห็นภาพสิ่งที่เรียกว่าความเป็นญี่ปุ่นชัดเจนขึ้น
รู้ประวัติศาสตร์ รู้วิถีปฏิบัติ รู้ความเป็นญี่ปุ่น การท่องเที่ยวแบบพิเศษเช่นนี้จะพบได้ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้อันเปี่ยมแน่น

ยินดีต้อนรับสู่ “วัดเอเก็นจิ” มรดกแห่งประเทศญี่ปุ่น

วัดเอเก็นจิซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนในฐานะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของ “ทะเลสาบบิวะและทิวทัศน์ของสายน้ำบริเวณโดยรอบ” ของมรดกแห่ง
ประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ มีความงดงามของธรรมชาติจำนวนมากที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจที่สำคัญ
ทั้งใบไม้เปลี่ยนสีที่กล่าวกันว่างดงามที่สุดในแถบโอมิ ในฤดูใบไม้ผลิก็มีซากุระแห่งวัดเอเก็นจิ ในฤดูร้อนก็มีเหล่าพฤกษาสีเขียวชอุ่ม
ขอเชิญใช้เวลาอย่างเต็มที่ตามที่ต้องการทั้งในการเดินเล่นบริเวณทางเดินวัด หรือทอดมองพระอุโบสถ

สิ่งที่จะได้สัมผัสประสบการณ์บริเวณโดยรอบวัดเอเก็นจิ

ฝึกนั่งสมาธิแบบเซน

สามารถลองฝึก “นั่งสมาธิแบบเซน” ได้ภายในวัดเอเก็นจิ เมื่อได้ฟังคำอธิบายและ
วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการนั่งสมาธิแบบเซนแล้ว คุณจะได้ทดลองฝึกนั่งสมาธิแบบเซน
โดยพระนิกายเซนจะเป็นผู้นำการฝึกปฏิบัติ ช่วงเวลาอันมีค่าที่คุณจะสัมผัสได้ถึง
การไม่เห็นแก่ตัว และห้อมล้อมไปด้วยความสงบเงียบรวมทั้งการมีจิตใจที่สะอาด
ผ่องแผ้ว สำหรับผู้ที่ไม่เคยนั่งสมาธิแบบเซนมาก่อนก็สามารถวางใจเข้าร่วมฝึก
ได้เช่นกัน

ฝึกนั่งสมาธิแบบเซนฝึกนั่งสมาธิแบบเซน

อาหารเจ

อาหารเจซึ่งไม่ใช้เนื้อสัตว์หรือเนื้อปลา แต่ใช้ผักผลไม้และสาหร่ายต่างๆ มาปรุงเป็นอาหารนี้ ถือเป็นเมนูอาหารที่มีความเชื่อมต่อสัมพันธ์กับพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง สำหรับโปรแกรมรายการนี้ จะมีเชฟชื่อดังซึ่งเป็นชาวจังหวัดชิงะมาปรุงอาหารเจแบบฟิวชั่นสไตล์สมัยใหม่ให้คุณได้ลิ้มรส ทั้งข้าวต้มใบชาซึ่งใช้ “ชามันโดโกโระ” พันธุ์ชาหายากชื่อดังที่ปลูกภายในพื้นที่เขตวัดเอเก็นจิ รวมทั้งเมนูอาหารต่างๆ ที่ใช้วัตถุดิบในแถบวัดเอเก็นจิในการปรุง ขอเชิญสัมผัสช่วงเวลาที่จะได้ใกล้ชิดกับคำสอนของพุทธศาสนาผ่านอาหาร

อาหารเจอาหารเจ

ชามันโดโกโระ

ชามันโดโกโระ เป็น 1 ใน 3 ชาหลักของแถบโอมิเฉกเช่นเดียวกับชิสึจิยามะและชา
อาซามิยะ มีการนำไปร้องในบทเพลงเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวใบชาว่า “เมืองอุจิดังเรื่องชา
ส่วนใบชานั้นต้องมันโดโกโระ” และถึงกับกล่าวกันว่าเป็น “ชาชื่อดังระดับตำนาน”
มีเอกลักษณ์คือการเพาะปลูกแบบออร์แกนิกทั้งหมด ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง โดยจะอนุรักษ์
วิธีปลูกชาแบบดั้งเดิมนี้ และสืบทอดเสน่ห์ของชาแบบอนุรักษ์นิยมที่มีอยู่ในตัวนี้ต่อไป

ชามันโดโกโระชามันโดโกโระ

พิธีชงชาเซนฉะ

“พิธีชงชา” อันเป็นวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นจะประกอบด้วย 2 ประเภทคือ
“พิธีชงชามัทฉะ” กับ “พิธีชงชาเซนฉะ” และมีรากเหง้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับพิธีชงชามัทฉะนั้นญี่ปุ่นได้รับการถ่ายทอดมาจากราชวงศ์ซ่งของจีน โดย
เซน โนะ ริคคิว เป็นผู้พัฒนาขึ้นจนสำเร็จในสมัยอัตสึจิ-โมโมยามะ ส่วนพิธีชงชา
เซนฉะเกิดตั้งแต่ช่วงกลางสมัยเอโดะเป็นต้นมา เป็นวิถีแห่งชาที่คิดค้นโดยเหล่า
ปัญญาชนผู้ไม่ต้องการถูกผูกมัดด้วยรูปแบบ เป็นการชงชาอันแสนงดงามต่อหน้า
ผู้ชม ขอเชิญมาสัมผัสประสบการณ์โอโมเตนาชิที่ใส่ใจพิถีพิถันเช่นนี้

พิธีชงชาเซนฉะพิธีชงชาเซนฉะ

เส้นทางท่องเที่ยวตัวอย่างแบบ 1 วัน

9:00นัดพบที่หน้าสถานีเกียวโตและเดินทางด้วยรถบัส

10:30เดินทางถึงและเดินเล่นภายในวัดเอเก็นจิ

ชมหลังคาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และภายในเขตวัดที่สัมผัสได้ถึงความเป็นญี่ปุ่น

10:50ฝึกนั่งสมาธิแบบเซนภายในวัดเอเก็นจิ

เผชิญหน้ากับความคิดและจิตใจของตนด้วยการนั่งสมาธิแบบเซน

11:30ลองชิมอาหารเจภายในวัดเอเก็นจิ

ขอเชิญชิมอาหารเจรสอร่อยและหน้าตาสวยงามน่ากิน

12:30เคลื่อนที่ไปยังบริเวณพื้นที่เพาะปลูกชามันโดโกโระ

12:50ลองดื่มเปรียบเทียบใบชาชนิดต่างๆ และเดินเล่น

ขอเชิญเพลิดเพลินกับรสชาติของชาพลางสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติ

16:00เดินทางกลับถึงสถานีเกียวโตและแยกย้าย